ล่องไพร ลำดับที่ 2 มนุษย์นาคา แดนสมิง หุบผามฤตยู พบกับหลากเรื่องราวการผจญภัยในป่าลึกลับและเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายนานาชนิด ๆ ร่วมสัมผัสชีวิตระทึกกลางพงไพรจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน "น้อย อินทนนท์" นักผจญภัยหัวใจรักธรรมชาติ หนังสือ 142. 50 บาท เนื้อหาโดยสังเขป พบกับหลากเรื่องราวการผจญภัยในป่าลึกลับและเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายนานาชนิด ๆ ร่วมสัมผัสชีวิตระทึกกลางพงไพรจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน "น้อย อินทนนท์" นักผจญภัยหัวใจรักธรรมชาติ ทั้งเรื่องของการล่ามหิงสา เผ่ามนุษย์ที่สูญพันธุ์ ตาเสือ สงครามล้มเผ่า หุบเขาอำพัน บึงมฤตยู อวสานไลสง และอื่น ๆ อีกมากมาย ถ่ายทอดด้วยภาษาที่อ่านง่าย ชวนติดตาม คนรักป่าและการผจญภัยไม่ควรพลาดหนังสือเล่มนี้! สารบัญ มนุษย์นาคา - การล่ามหิงสา - แหม่มไมรา - เผ่ามนุษย์ที่สูญพันธุ์ ฯลฯ แดนสมิง - นาคาเผ่าเซียมิ - ทายาทเผ่าเซียมิ - เสือหรือคน? ฯลฯ หุบผามฤตยู - คำทำนายของลีกอ - หุบเขาอำพัน - ไมราถูกลักพา ฯลฯ รายละเอียดหนังสือ ISBN: 9789742258955 (ปกอ่อน) 248 หน้า ขนาด: 126 x 183 x 14 มม. น้ำหนัก: 240 กรัม เนื้อในพิมพ์: ขาวดำ ชนิดกระดาษ: กระดาษถนอมสายตา สำนักพิมพ์: กระท่อม ป. ล., สนพ.
เดือนปีที่พิมพ์: 2012 สินค้าที่ลูกค้ามักซื้อด้วยกัน
ISBN: set 112 ผู้แต่ง: น้อย อินทนนท์ ผู้แปล: - สำนักพิมพ์: กระท่อม ป. ล. ปีที่พิมพ์: 2560 จำนวนหน้า: จำนวน 14 เล่ม ราคาพิเศษ ฿1, 890. 00 ราคาปรกติ ฿2, 100. 00 บทประพันธ์ของครูมาลัย ชูพินิจ แนวป่าดงพงไพร ชุด "ล่องไพร" ในนามปากกา "น้อย อินทนนท์" ที่สำนักพิมพ์ กระท่อม ป. ล. ได้นำมาประเดิมดีพิมพ์เป็นเรื่องแรกของสำนักพิมพ์นี้นั้น ครูมาลัย ชูพินิจ ได้เขียนขึ้นตั้งแต่ปี พ. ศ.
เมืองลับแล มดแดง พรายตะเคียน คราวนี้ศักดิ์ สุริยัน และคณะล่องไพร ออกตามหาเมืองลับแลซึ่ง หายสาปสูญไปกว่าพันปี ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่ากะเหรี่ยงบ้านอุ้มปาต เมืองนี้มีชื่อว่า "สิเห" เมืองที่มีแม่หญิงเป็นผู้ครองนคร มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ ใครใคร่กิน... กิน ใครใคร่นอน... นอน ไม่มีลัก ไม่มีขโมย ไม่อิจฉาริษยาหรือเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ไม่มีฆ่า ไม่มีทำร้ายกัน ใครอยากได้อะไรของใครก็เอาไป ไม่มีการหวงแหน หวงห้าม ไม่มีกฎหมาย ใครอยู่ใครพูดความจริง ความเท็จเป็นข้อเดียวที่อยู่ไม่ได้ในเมืองนั้น ๙.
เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์จัดพิมพ์ โดยรวมตอนสั้นๆ เข้าไว้ในเล่มเดียวกัน ป้อนสู่ผู้อ่านจำนวน ๑๔ เล่ม คือ ๑. อ้ายเก งาดำ ๒. มนุษย์นาคา แดนสมิง หุบผามฤตยู ครานี้ คณะของ ศักดิ์ สุริยันต์ ต้องเดินทางไปกับคณะของดร. สมิธ เพื่อนำทางไปสำรวจและค้นหาชาวนาคะ ชนเผ่ามนุษย์ในพงไพรติดชายแดนไทย-พม่า แต่ระหว่างการเดินทางนั้น ชาวคณะต้องผจญกับสัตว์ร้าย และหนทางอันหฤโหด ๓. ป่าช้าช้าง เจ้าแผ่นดินป่าช้าช้าง เป็นนวนิยายเกี่ยวกับป่าดงพงไพร ลำดับที่ 3 ในชุด ล่องไพร ของ น้อย อินทนนท์ ซึ่งสำนักพิมพ์กระท่อม ป. ล. ได้จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเสนอความอภิรมย์แก่ผู้อ่านทุกท่าน ในเล่มนี้ทางสำนักพิมพ์ได้นำล่องไพรตอนพิเศษคือ จ้าวแผ่นดิน มารวมไว้ด้วย เพื่อให้มีรูปเล่มขนาดเดียวกับสองเล่มแรก เป็นตอนที่เปิดโอกาสให้ ตาเกิ้น ได้แสดงความสามารถและเล่ห์เหลี่ยมของแกอย่างเต็มที่ สมกับเป็นมือขวาของ ศักดิ์ สุริยัน ๔. จามเทวี เล่มนี้ ศักดิ์ ตาเกิ้น ร. อ. เรือง ท่องป่าดงพญาไฟ และได้ยินเสียงเล่าขานถึงอภินิหารของพระนางจามเทวี และได้พบกับหมอเติมพันธ์โดยบังเอิญ ซึ่งเป็นผู้ที่เคยพบนางจามเทวี และเคยไปจามนครมาแล้ว สร้างความประหลาดใจให้แก่คณะล่องไพรเป็นอย่างมาก ทำให้ศักดิ์ และคณะ ต้องเดินทางไปพิสูจน์คำบอกเล่าของหมอเติมพันธ์ ความจริงจะเป็นอย่างไร จามเทวี และจามนครจะมีจริงไหม ติดตามอ่านได้จาก ล่องไพร เล่ม 4 นี้ ๕.
คาร์ล ฟลิกส์ และแวนดา ภรรยาสาวของเขานั้น ต้องเผชิญกับความยากลำบากเพียงใด กว่างานสักชิ้นจะสัมฤทธิ์ผล ๑๓. วิมานฉิมพลี (แบ่งเป็น ๒ เล่ม) "วิมานฉิมพลี" เป็นลำดับที่ 13 หรือตอนสุดท้ายของ "ล่องไพร" ซึ่งศักดิ์ สุริยัน และคณะ ได้ร่วมเดินทางไปกับคณะสำรวจด้านมนุษยวิทยา สองสามีภรรยา... ดร.
4 ใช้เป็นบทเห่เรือหลวง ตำนานการเห่เรือ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าการเห่เรือของไทยน่าจะได้แบบมาจากอินเดีย แต่ของอินเดียใช้เป็นมนต์ในตำราไสยศาสตร์ บูชาพระราม ของไทยใช้การเห่เรือบอกจังหวะฝีพายให้พายพร้อมกันเป็นการผ่อนแรงและให้ความเพลิดเพลิน ลำนำการเห่เรือ 1. ช้าละวะเห่ (ช้าแลว่าเห่) เป็นการเห่ทำนองช้า ใช้เห่เมื่อเรือเริ่มออกจากท่าและเมื่อพายเรือตามกระแสน้ำ 2. มูลเห่ เป็นการเห่ทำนองเร็วๆ ใช้เห่หลังจากช้าละวะเห่แล้ว ประมาณ 2-3 บท และใช้เห่เรือตอนเรือทวนน้ำ 3.